Reconix LogoReconix
Featured image for [รีวิว] eMAPT 2025 - Mobile Penetration Testing Certification ที่ข้อสอบเปลี่ยนไปหลังจากที่ผมกดซื้อคอร์ส!

[รีวิว] eMAPT 2025 - Mobile Penetration Testing Certification ที่ข้อสอบเปลี่ยนไปหลังจากที่ผมกดซื้อคอร์ส!

Reconix Team (Kittipat Dechkul)

English version of this article can be found here

ต้องเกริ่นก่อนว่า ตั้งแต่เข้ามาทำงานสาย Cybersecurity มา Mobile เป็นสายที่ผมแตะน้อยที่สุด อยู่มาวันหนึ่งเกิดความคิดขึ้นมาว่า อยากศึกษาเรื่อง Pentest Mobile เพิ่มมากขึ้น เลยเริ่มหาข้อมูล ศึกษาเพิ่มเติมไปเรื่อย ๆ จนไปเจอว่า มี Cert ตัวนึงที่รุ่นพี่ในบริษัทหลายคนสอบกัน แถมมีพี่เขียนรีวิวไว้ให้อ่านด้วย Cert ที่ว่าก็คือ eMAPT ของ INE Security พอผมไปอ่านรีวิวและดูรายละเอียดเพิ่มเติมก็พบว่า แนวข้อสอบเดิมเป็น Lab-based คือเขียนโค้ดเพื่อเจาะแอปภายใน 7 วัน ก็คิดในใจว่า น่าจะสอบสบาย ๆ ชิว ๆ เพราะเคยเขียน Android App มาบ้าง ลองเรียนสักพักน่าจะทำข้อสอบได้ เลยไปขออนุมัติทีม Lead เพื่อจะซื้อ Course เพื่อสอบ eMAPT และเมื่อได้รับอนุมัติก็ไปกดซื้อเลย ซึ่งโชคดีมากที่ตอนนั้นตัว Certificate ลดราคา เหลือแค่ 399 USD จากราคาเต็ม 599 USD ซึ่งแพ็กเกจที่ได้มาคือ คอร์สเรียน 3 เดือน พร้อม Voucher สอบ eMAPT และแล้วความบันเทิงก็เริ่มขึ้น

image.png

จาก eMAPT ตัวเก่า → eMAPT 2025 ตัวใหม่

วันถัดมาหลังจากซื้อเสร็จ ผมเข้าไปดู Exam Outline อีกที พอกดรีเฟรชหน้าเว็บเท่านั้นแหละ ปรากฏว่าทุกอย่างเปลี่ยน หน้าเว็บเปลี่ยนใหม่ Exam Outline เปลี่ยนใหม่หมด พอเข้าไปดูรายละเอียดการสอบก็เจอว่า ข้อสอบใหม่จะเริ่มใช้วันที่ 10 กรกฎาคม 2025 แปลว่า INE เปลี่ยนรูปแบบข้อสอบแบบยกเครื่องเลย จากเดิมที่ให้เวลา 7 วันในการเขียนแอปเพื่อ Exploit แอป → กลายเป็น สอบ Multiple Choice 45 ข้อ + Lab จริงอีก 2 ข้อ ภายใน 12 ชั่วโมง ผ่านระบบของ INE (ใครเคยสอบ Certificate ของทาง INE จะคุ้นระบบนี้) ตอนนั้นในหัวคือ "ชิบหายละ ผิดแผนหมด" ดูทรงแล้วน่าจะใช้เวลาเตรียมตัวนานกว่าเดิมแน่ ๆ ซึ่งไม่ใช่แค่ข้อสอบเท่านั้นที่เปลี่ยน ตัวคอร์สก็เปลี่ยนใหม่ทั้งหมด โดยถ้าอิงจากเนื้อหาในวิดีโอในคอร์ส ก็เห็นว่าได้อัดช่วงเดือน พฤษภาคม 2025 นี่เอง สดใหม่มาก เพิ่งผ่านมาไม่กี่เดือนเอง ถือว่า Up-to-date สุด ๆ

header.jpeg

เนื้อหาที่น่าสนใจของ eMAPT

สิ่งที่ผมชอบในคอร์ส eMAPT คือ เค้าไม่ได้สอนแค่เทคนิคเจาะแอป แต่จะสอนให้เรามองมุมมองของ Attacker จริง ๆ โดยตัวคอร์สจะปูพื้นฐานตั้งแต่ให้เราเข้าใจ Architecture ของ Mobile App (ทั้งฝั่ง Android และ iOS), Common Vulnerabilities และ Tools ที่ใช้จริงในการทำ Mobile Pentest ไม่ว่าจะเป็น Dynamic/Static Analysis, Frida, Burp, Objection, รวมไปถึงการ Reverse APK และตัวคอร์สยังอิงตาม OWASP Mobile Top 10 เป็นหลัก ซึ่งช่วยให้เรามองภาพรวมได้ว่า ช่องโหว่แบบไหนที่เจอบ่อย และควรป้องกันยังไง ทั้งฝั่ง Client และ Server จากที่กล่าวมาข้างต้น จุดที่คอร์สนี้ให้ความสำคัญมากที่สุดคือ คอร์สพยายามปลูกฝัง Mindset ให้เรา คิดเหมือนแฮกเกอร์ แต่ทำงานเหมือนมืออาชีพ คือเราต้องเข้าใจวิธีโจมตี แต่ก็ต้องรู้ด้วยว่าควรป้องกันยังไงให้เหมาะสมกับระบบในองค์กร

รูปแบบการสอบ

การสอบทาง INE จะให้เราทำบน Debian VM (Emulator) ซึ่งข้างในนั้น จะมี Tools พื้นฐานให้ และมี Mobile Emulator พร้อม APK ที่เป็นโจทย์ติดตั้งมาให้แล้ว และแน่นอนครับ VM นี้ไม่สามารถต่อเน็ตได้

ข้อสอบทั้งหมด 45 ข้อ เป็นแบบ Multiple Choice + Text Field แบ่งออกเป็น 3 หมวดใหญ่ ๆ คือ

  1. General 19 ข้อ

    เป็นโจทย์เกี่ยวกับสถานการณ์สมมติ และพวก Methodology ต่าง ๆ เช่น แอป A เจอว่ามี Password ฝังอยู่ในโค้ด เราควรแนะนำยังไง ตัวโจทย์จะมีความยาวพอสมควรและต้องอ่านละเอียด ยิ่งข้อไหนอ่านครั้งแรกแล้วไม่เข้าใจก็ต้องวนอ่านซ้ำ ซึ่งเสียเวลาเยอะพอสมควร

  2. Static Analysis 10 ข้อ

    ใน VM จะมี Folder Static อยู่โดยข้างในนั้นจะมีไฟล์โค้ดอยู่ โดยคำถามจะถามเกี่ยวกับช่องโหว่ของโค้ดนั้น เช่น มีไฟล์โค้ดเกี่ยวกับ Weak Crypto ตัวโจทย์อาจจะถามว่า โค้ดจุดไหนคือช่องโหว่เป็นต้น ซึ่งถ้าไม่เคยเขียน Android App หรือไม่เคย Decompile Mobile App มาก่อน ส่วนนี้อาจยากเพราะบางทีดูโค้ดแล้วรู้สึกว่ามันก็ปกติ ทำให้ต้องใช้เวลาหาข้อมูลเพิ่มในระหว่างการสอบ

  3. Dynamic & API Analysis 16 ข้อ

    มี Lab ที่เป็น APK ติดตั้งใน Emulator ให้แล้วทั้งหมด 2 แอป โดยตัวโจทย์จะถามเกี่ยวกับช่องโหว่ หรือข้อมูลในแอปที่ให้มา ซึ่งเราก็จะต้องทำทั้ง Dynamic & Static Analysis และ API Pentest

รีวิวการสอบ

ส่วนของการรีวิวการสอบ ความคิดเห็นส่วนตัวของผม ส่วนแรกที่เป็น General Question นั้นไม่ยากมาก แต่เราต้องแม่นพวก Threat Modeling และ Methodology ต่าง ๆ พอสมควร และสามารถนำความรู้นั้นมาวิเคราะห์เพื่อตอบคำถามในเคสต่าง ๆ ได้

ส่วนที่ 2 ที่เป็น Static Analysis นั้นถ้าหากเราไม่เคยเขียน Android App มาก่อน หรือไม่เคย Decompile Mobile App มาก่อน ส่วนตัวคิดว่าจะค่อนข้างยากเพราะอาจจะจับจุดไม่ได้ หรือไม่เข้าใจในช่องโหว่นั้นที่โจทย์ถาม ซึ่งในตอนสอบ ผมก็มีบางข้อที่อ่านโค้ดไปก็คิดในหัวว่า "ก็ปกติเปล่านะ ไม่เห็นมีช่องโหว่เลย" ซึ่งก็ใช้เวลาพอสมควรในการ Research เพิ่มในตอนนั้นเลย ซึ่งถ้าเราอ่านหรือศึกษามามากกว่านี้ คิดว่าจะง่ายขึ้นมาก

ส่วนสุดท้ายเราต้อง Pentest APK ทั้ง 2 แอป ผมจะแบ่งเป็น 2 ส่วนคือ Dynamic Analysis และ API Pentest ในส่วนแรก ผมย้ำเลยว่าจำเป็นต้องทำ Dynamic Analysis เป็น คือเขียน Frida Script หรือใช้ Objection ได้ ถึงจะสามารถทำ 2 แอปนี้ได้ ซึ่งใน VM มี Frida และ Objection ให้ ซึ่งถ้าหากเราไม่สามารถทำ Dynamic Analysis ได้ เราก็จะไม่สามารถทำ API Pentest ในแอปต่อได้ ส่วนที่ 2 API Pentest ส่วนตัวคิดว่าถ้าเราเคยทำ Pentest Website หรือเคยเล่น CTF มาก็น่าจะพอทำได้ เพราะส่วนใหญ่จะเป็นช่องโหว่ที่พบเจอได้บ่อย ๆ ไม่ซับซ้อน

สุดท้ายสิ่งที่สำคัญที่สุดคือ ระหว่างที่เราสอบควรหมั่นจดสิ่งที่ทำไป หรือจดสคริปต์ ผลลัพธ์ต่าง ๆ ออกมาด้วย เพราะด้วยการที่เราต้องทำให้ VM ของทาง INE ซึ่งในบางครั้งถ้าหากเรารันอะไรหนัก ๆ หรือไปทำอะไรแปลก ๆ มันอาจจะ Crash ได้ และสิ่งที่เราทำมาใน VM Session นั้นก็จะหายไปทั้งหมด ต้อง Start VM ใหม่เริ่มกันใหม่ทั้งหมด ซึ่งถ้าเราไม่จดคำสั่ง หรือ Script ออกมา แล้ว VM Restart นี่มีน้ำตาเล็ดแน่

eMAPT Certificate ที่ได้รับหลังสอบผ่าน : https://certs.ine.com/90fd4d98-aacc-42bc-b9b9-7b7e1a4e8b3c

Kittipat eMAPT Certificate Page 1.jpg

ข้อแนะนำในการสอบ

หัวข้อนี้จะพูดถึงทั้งการเตรียมตัวก่อนสอบ และเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ ที่ช่วยให้ทำข้อสอบได้ดีขึ้นครับ ถ้าหากเราเรียน Course จบหมดแล้ว สิ่งที่ผมจะแนะนำต่อมาเลยคือ เข้าไปลองเล่น Lab ที่เค้าเตรียมไว้ให้ ลองเขียน Script Bypass หรือใช้ Tools ที่ไม่เคยใช้มาก่อนให้เราคุ้นเคย เช่น เขียน Frida เพื่อ Bypass Function ในแบบต่าง ๆ ลองหลาย ๆ วิธีดู อีกอย่างที่สำคัญมาก ๆ คือ ต้องเข้าใจช่องโหว่ใน OWASP Top 10 ให้ดี อย่างน้อยควรจะดูออกว่า Output แต่ละแบบนั้นมีโอกาสเป็นช่องโหว่อะไรได้บ้าง

พอถึงเวลาสอบจริง แนะนำว่าให้วางแผนล่วงหน้า แบ่งเวลาให้ชัด เพราะข้อสอบค่อนข้างยาว ถ้าไม่วางแผนก่อนอาจเสียเวลาเยอะ และระหว่างทำโจทย์ อย่าลืมจดให้ละเอียดที่สุดเท่าที่จะทำได้ ด้วยการที่เราต้องทำข้อสอบใน VM ของทาง INE ซึ่งในบางครั้งถ้าหากเรารันคำสั่งเยอะไป หรือรันคำสั่งอะไรหนัก ๆ ก็อาจจะทำให้ระบบ Crash ได้ ซึ่งจะทำให้สิ่งที่เราทำมาใน VM Session นั้นหายไปทั้งหมด ต้อง Restart VM ใหม่และเริ่มกันใหม่ทั้งหมด ดังนั้นการที่เราจดบันทึกให้ละเอียดไม่ใช่แค่กัน VM Restart แต่เวลาเรากลับมาไล่ดู จะได้ไม่หลงว่าทำถึงไหนแล้ว หรือลืมอะไรไปบ้าง

Vulnerable Application Lab ที่แนะนำ

  • https://github.com/hax0rgb/InsecureShop
  • https://github.com/dineshshetty/Android-InsecureBankv2
  • https://github.com/satishpatnayak/AndroGoat
  • https://github.com/t0thkr1s/allsafe
  • https://mas.owasp.org/crackmes/

สรุป

โดยรวมแล้ว eMAPT เป็นคอร์สที่เหมาะมากสำหรับคนที่อยากเริ่ม Mobile Pentest แบบเข้าใจพื้นฐานจริง ๆ โดยเฉพาะคนที่มีพื้นฐาน Pentest เว็บหรือเคยเล่น CTF มาก่อน ซึ่งคอร์สนี้ไม่ได้เน้นแค่เทคนิคเจาะแอป แต่โฟกัสที่ Mindset ของคนทำ Pentest จริง ๆ คือเราต้องเข้าใจว่าคนโจมตีคิดยังไง แล้วจะป้องกันยังไงให้เหมาะสมกับระบบจริง ไม่ใช่แค่เจาะได้เฉย ๆ

Articles

More Blog Posts

Continue exploring our cybersecurity insights and resources

Featured image for [รีวิว] eWPT Certification ฉบับภาษาไทย 2025 ราคา ข้อสอบ และวิธีเตรียมตัวแบบละเอียด

[รีวิว] eWPT Certification ฉบับภาษาไทย 2025 ราคา ข้อสอบ และวิธีเตรียมตัวแบบละเอียด

August 13, 2025Reconix Team (Wachirawit Kanpanluk)

รีวิวประสบการณ์สอบ eWPT (INE Security/eLearnSecurity Web Application Penetration Tester) ข้อสอบ 50 ข้อ 10 ชม. ราคา $499-599 พร้อมเทคนิคเตรียมตัวแบบมือใหม่ผ่านใน 1 เดือน

Featured image for แชร์ประสบการณ์สอบ OSCP+ ครั้งแรก (ผ่านใน 12 ชั่วโมง) และการเตรียมตัว ฉบับปี 2025

แชร์ประสบการณ์สอบ OSCP+ ครั้งแรก (ผ่านใน 12 ชั่วโมง) และการเตรียมตัว ฉบับปี 2025

April 16, 2025Reconix Team (Kongkit Chatchawanhirun)

สรุปประสบการณ์การสอบ OSCP+ ปี 2025 จากมุมมองของผู้สอบที่สามารถพิชิตใบเซอร์ภายใน 12 ชั่วโมง! บทความนี้จะพาไล่ตั้งแต่ขั้นตอนการเตรียมตัว ทำ Lab, เทคนิคสำคัญ, กลยุทธ์จัดการเวลาในสนามสอบจริง รวมถึงเคล็ดลับการเก็บ Evidence และส่ง Report อย่างมืออาชีพ พร้อมข้อควรระวังที่อาจทำให้สอบไม่ผ่านแบบไม่รู้ตัว เหมาะสำหรับทั้งผู้เริ่มต้นและคนที่มีพื้นฐานแล้ววางแผนจะสอบ OSCP+ ในเร็ว ๆ นี้